แปลเพลง Be the light – ONE OK ROCK

Be the light เป็นเพลงของวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นวง ONE OK ROCK ที่กำลังมีชื่อเสียงก้าวขึ้นไปในระดับโลก โดยเพลงนี้เป็นเพลงช้าที่มีเนื้อหาที่ดี เป็นการแสดงความรู้สึกให้กำลังใจผู้ประสบสิ่งเลวร้ายในชีวิตให้ก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น อาชญากรรม ภัยสงคราม หรือภัยธรรมชาติจากทั่วโลก น้ำเสียงของ Taka นักร้องนำของวง สื่อความหมายถึงความเจ็บปวด และการให้กำลังใจได้ค่อนข้างลึกซึ้งและน่าฟังมากทีเดียว
Just the thought of another day
How did we end up this way
What did we do wrong? … God
วันเหล่านั้นผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง
ทำไมเราถึงต้องจบลงแบบนี้กันนะ?
พวกเราทำผิดในสิ่งใดกันหรือ? … พระผู้เป็นเจ้า
Even though the days go on
So far, so far away from
It seems so close
แม้เวลาเนิ่นนานผ่านเลยไป
ล่วงเลยไปห่างไกลจากวันนั้น
แต่ทุกอย่างยังดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น ใกล้ๆตัวฉันนี่เอง
Always weighing on my shoulder
A time like no other
It all changed on that day
Sadness and so much pain
แบกรับความรู้สึกอันหนักอึ้งไว้บนบ่านี้
ช่วงเวลาที่มิอาจมีสิ่งใดเปรียบ
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในวันนั้น
ความเจ็บปวดและโศกเศร้าอย่างเหลือคณา
You can touch the sorrow here
I don’t know what to blame
I just watch and watch again
Oh …
คุณสามารถสัมผัสความเจ็บปวดของฉันได้ที่ตรงนี้
ฉันไม่รู้จะกล่าวโทษสิ่งใดได้
ได้แต่เพียงมองภาพเหล่านั้น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
โอ้
Even though the days go on
So far, so far away from
It seems so close
แม้นเวลาเนิ่นนานผ่านเลยไป
ล่วงเลยไปห่างไกลจากวันนั้น
แต่ทุกอย่างยังดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น ใกล้ๆตัวฉันนี่เอง
Even though the days go on
So far, so far away from
It seems so close
แม้นเวลาเนิ่นนานผ่านเลยไป
ล่วงเลยไปห่างไกลจากวันนั้น
แต่ทุกอย่างยังดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น ใกล้ๆตัวฉันนี่เอง
What did it leave behind?
What did it take from us and wash away?
It may be long
But with our hearts start a new
And keep it up and not give up
With our heads held high
สิ่งใดที่มันหลงเหลือไว้ให้เราบ้าง?
สิ่งใดกันบ้างที่มันพรากไปจากเรา?
อาจต้องใช้เวลาเนิ่นนานเพื่อเยียวยา
แต่หากหัวใจของเราพร้อมจะเริ่มต้นใหม่
ยังต้องสู้ต่อ ต้องไม่ยอมแพ้ให้กับมัน
ยืดอกเข้าไว้เถอะนะ
You have seen hell and made it back again
How to forget? We can’t forget
The lives that were lost along the way
And then you realize that wherever you go
There you are
Time won’t stop
So we keep moving on
เธอได้มองเห็นนรกแล้ว แต่ยังรอดกลับมาได้อีกครั้ง
จะลืมได้อย่างไร? เราไม่มีทางลืมได้ลง
ชีวิตของผู้คนเหล่านั้นที่ต้องสูญเสียไป
และเธอจะตระหนักได้ว่า ไม่ว่าเธอจะเดินทางไปในที่ใด
ตัวตนของเธอก็จะอยู่กับเธอที่นั่น
เวลาไม่มีทางหยุดเดินหรอกนะ
พวกเราก็ต้องก้าวเดินกันต่อไป
Yesterday’s night turns to light
Tomorrow’s night returns to light
Oh… Be the light
ค่ำคืนของวันวาน เปลี่ยนมาสู่แสงสว่างของวันนี้
และค่ำคืนของวันพรุ่งนี้ ก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็นเช้าของวันมะรืนอีกครั้ง
จงเป็นดั่งแสงสว่างนั้น
Always weighing on my shoulder
A time like no other
It all changed on that day
Sadness and so much pain
แบกรับความรู้สึกอันหนักอึ้งไว้บนบ่านี้
ช่วงเวลาที่มิอาจมีสิ่งใดเปรียบ
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในวันนั้น
ความเจ็บปวดและโศกเศร้าอย่างเหลือคณา
Anyone can close their eyes
Pretend that nothing is wrong
Open your eyes
And look for light
Oh …
บางคนอาจสามารถหลับตา
และแกล้งทำได้ว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ลืมตาเถิดนะ
เธอจงมองหาแสงสว่าง
โอ้
What did it leave behind?
What did it take from us and wash away?
It may be long
But with our hearts start a new
And keep it up and not give up
With our heads held high
สิ่งใดที่มันหลงเหลือไว้ให้เราบ้าง?
สิ่งใดกันบ้างที่มันพรากไปจากเรา?
อาจต้องใช้เวลาเนิ่นนานเพื่อเยียวยา
แต่หากหัวใจของเราพร้อมจะเริ่มต้นใหม่
ยังต้องสู้ต่อ ต้องไม่ยอมแพ้ให้กับมัน
ยืดอกเข้าไว้เถอะนะ
Yeah, yeah…
You have seen hell and made it back again
How to forget? We can’t forget
The lives that were lost along the way
And then you realize that wherever you go
There you are
Time won’t stop
So we keep moving on
ใช่เลย
เธอได้มองเห็นนรกแล้ว แต่ยังรอดกลับมาได้อีกครั้ง
จะลืมได้อย่างไร? เราไม่มีทางลืมได้ลง
ชีวิตของผู้คนเหล่านั้นที่ต้องสูญเสียไป เราจะไม่ลืม
และเธอจะตระหนักได้ว่า ไม่ว่าเธอจะเดินทางไปในที่ใด
ตัวตนของเธอก็จะอยู่กับเธอที่นั่น
เวลาไม่มีทางหยุดเดินหรอกนะ
พวกเราก็ต้องก้าวเดินกันต่อไป
Yesterday’s night turns to light
Tomorrow’s night returns to light
Oh … Be the light
ค่ำคืนของวันวาน เปลี่ยนมาสู่แสงสว่างของวันนี้
และค่ำคืนของวันพรุ่งนี้ ก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็นเช้าของวันมะรืนอีกครั้ง
จงเป็นดั่งแสงสว่างนั้น
Some days just pass by and
Some days are unforgettable
We can’t choose the reason why
But we can choose what to do from the day after
So with that hope, with that determination
Let’s make tomorrow a brighter and better day
วันวานผ่านเลยไป
และมีบางช่วงเวลาที่เรามิอาจลืมเลือน
เราอาจเลือกหาเหตุผลให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นบางสิ่งไม่ได้
แต่เราเลือกได้ว่าจะทำยังไงต่อไปหลังจากนั้น
และด้วยความหวังและความไม่ย่อท้อของพวกเรา
มาทำให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ดีกว่าและสดใสยิ่งกว่ากันเถอะ
Oh…
Yeah…
Oh…
Yeah… Yeah…